dragon quest your story ดู dragon quest your story รีวิว dragon quest your story review



ในภาพรวมแล้ว ในเมื่อมันเป็นภาคที่แฟนคลับชอบมากขนาดนี้ เมื่อถูกนำมาปรับเปลี่ยนเป็นอนิเมชั่น แล้วพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงรวมทั้งตีความใหม่หลายๆอย่าง ไปจนถึงการดีไซต์ผู้แสดง กับการแปลความหมายบุคลิกลักษณะผู้แสดงสำคัญบางบุคคลที่เปลี่ยนไปจากของเดิม ไปจนกระทั่งขั้น “ตัดผู้แสดงสำคัญ” ที่มีบทบาทในตัวเกมออกไป

แล้วที่ยิ่งกว่านั้นเป็น “ฉากท้ายที่สุดในเรื่อง” ที่มีการเฉลยคำตอบเรื่องราวในอนิเมเรืองนี้แบบหักมุมประเภทมากกว่า 360 องศา แม้ว่าเอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้หักมุมหนักขนาดนั้น เนื่องจากเมื่อดูไประยะหนึ่ง คนจำนวนไม่น้อยอาจจะเริ่มต้นสงสัยและก็มองออก แต่ว่ามันก็ทำให้แฟนๆเกมนี้ปริมาณอย่างใหญ่โตที่มีความมุ่งมาดว่าจะได้เข้ามาดูเรื่องราวของ DQ 5 ในแบบอย่างอนิเมชั่น จะต้องผิดหวังไปตามๆกัน จนถึงส่งผลให้เกิดการติชมชนิดสับแหลกในญี่ปุ่นมาแล้ว

ที่ตรงนี้เองที่ทำให้โชคร้ายว่า เนื่องจากว่าตัวเรื่องทำลายความคาดหมายของแฟนๆแต่ที่แท้ตัวอนิเมชั่นในภาพรวมแล้ว จะจัดว่ามีคุณภาพที่ดีในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นงาน CG กราฟฟิก โมชั่น การเคลื่อนไหว ที่ทำออกมาก้าวหน้า ไปจนกระทั่งการสร้างฉากแอ็กชั่นจากในเกมรวมทั้งฉากการใช้เวทมนต์และก็คาถาอาคมๆต่างที่แฟนเกมเคยชินให้ออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหว จะทำได้ดีพอควร รวมถึงเพลงประกอบ สกอร์ OST ต่างๆที่เป็นเพียงแต่ประจำของเกมซีรีส์นี้ที่บทกลอนโดยยอดเยี่ยมวาทยากรระดับปรมาจารย์อย่าง วัวอิจิ สุงิยามะ แต่ละเพลงก็เข้าในแต่ละฉากได้ถูกจังหวะ ทั้งยังในแง่ของการดัดแปลงแก้ไขบทรวมทั้งเนื้อเรื่องให้เกมให้มีความกระชับแล้วก็เล่าราวในฉากสำคัญๆต่างๆให้อยู่ภายในระยะเวลาจำกัด จะทำได้ระดับที่ดี โดยเฉพาะในตอน 5 นาทีแรกของการเปิดเรื่อง มั่นใจว่าแฟนเกมทุกคนจำต้องยินดีแล้วก็ปลื้มแน่ๆ



แต่ว่าแล้วทุกสิ่งมันสวนทางไปเลยสำหรับ 5 นาทีในที่สุดเสียอย่างงั้น (ในระหว่างที่คนเขียนเองพอรับกับตอนจบแบบงี้ได้ แม้กระนั้นที่เกลียดที่สุดเป็น ตัดบทบุตรสาวฝาแฝดเพราะเหตุใด เนื่องจากในฐานแฟนเกมนี้ก็อยากเห็นภาพสมาชิกครอบครัวของตัวนำอยู่กันพร้อมหน้าบนตัวภาพยนตร์สักหนึ่งครั้ง)

อันที่จริงแล้ว ตอบจบของเรื่องเป็นการจอบปัญหารวมทั้งคำอธิบายทั้งหมดทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเรื่อง ว่าทำไมเนื้อหาสำคัญบางสิ่งถึงต่างจากในเกมต้นฉบับ โดยยิ่งไปกว่านั้น

หน้าตาของตัวเอกที่มีความต่างจากภาพตัวนำในเกมต้นฉบับ (แม้ว่าจะไม่มาก แม้กระนั้นก็อย่างจงใจ)
ลักษณะท่าทางและอาการในทีแรกๆของตัวนำ ที่มองไม่ถูกไปจากความกล้าหาญในเกม
ลักษณะท่าทางรวมทั้งการแต่งกายของเบียงก้า ในเกมแม้ตอนเด็กเธอจะเป็นสาวน้อยดื้อ แต่เมื่อโตขึ้นแล้วคุณจะมองอ่อนโยนรวมทั้งเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้น แต่ว่าในหัวข้อนี้ เธอกลับห้าวมากกว่าเดิมตอนโต
การตัดบทบุตรสาวฝาแฝดของตัวเอกออก เปลี่ยนเป็นตัวเอกมีลูกชายแค่คนเดียว
ซึ่งต้นเหตุที่เป็นแบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะ แท้จริงแล้วเรื่องราวทั้งสิ้นคือโลกของเกม VR เสมอเหมือนจริง ที่ตัวนำ ก็คือตัวแทนของผู้ชมหรือแฟนเกมนี้มายาวนานเมื่อวัยเด็ก ได้เข้ามาเล่นเกม DQ ที่ทำขึ้นใหม่ในแบบเกม VR แม้กระนั้นด้วยความที่ตัวบอสของเรื่องเป็นไวรัสปัญหาที่ถูกทำขึ้น (โดยคนใดกันแน่ก็ไม่รู้เรื่อง) ปรารถนาปั่นป่วนทำลายเกม VR จึงส่งมันแทรกเข้ามา ทำให้เกมมีความผิดสติไม่ดีบางสิ่ง ตรงนี้บางครั้งอาจจะพอเพียงชี้แจงคำตอบของปัญหาข้างต้นได้ถึงไม่เหมือนกันที่ว่ามา



สำหรับข้อสรุปอย่างงี้ แฟนๆบางครั้งอาจจะมีความรู้สึกว่า กลุ่มสร้างจะเลือกเสนอหักมุมอย่างนี้เพราะอะไร แต่นักเขียนเองก็รู้เรื่องนะ เพราะที่จริงแล้ว ชื่อเรื่องของหนังมันก็บอกอยูแล้วว่า Dragon Quest Your Story “แปลว่านี่เป็นเรื่องราวของคุณ” ซึ่งประเด็นนี้ก็ตรงกับคอนเซปต์ของเกม DQ ทุกภาคที่อยากได้ทำเกมออกมาเสมอเหมือนให้คนเล่นได้สวมตัวเองลงไปรับบทบาทเป็นผู้กล้าหรือตัวเอกในเกม ด้วยเหตุนี้ตัวนำของเกม DQ จะไม่มีบทสนทนา แต่ว่าจะมีแค่ให้พวกเราเลือกตอบคำถามเท่านั้น เพื่อให้เราแสดงบทบาทตนเองเข้าไปได้ไม่ยากตัวหนังเองก็ทำออกมาตั้งใจสื่อตัวสารนี้ให้คนดู อารมณ์เหมือนเป็นการส่งข่าวสารบางอย่างจากกลุ่มสร้าง

แต่กล่าวตามตรงว่า ใครอีกหลายๆคนไม่บางทีอาจชอบ ภาพยนตร์ กำลังฉาย เพราะเหตุว่านักเขียนก็พอเพียงจะความคาดหมายของแฟนเกมนี้ส่วนหนึ่งส่วนใดเพราะว่า ต้องการเข้าไปเห็นเรื่องราวของเหล่าผู้แสดงใน DQ 5 ที่พวกเขารัก โลดแล่น มีชีวิตบนอนิเมชั่น ไม่ต้องการจะมาดู คนไหนกันแน่ก็ไม่รู้จัก (ผู้แทนแฟนๆ) เล่นเกมให้เรามองอีก ตรงนี้เลยน่าจะเป็นสาเหตุของการถูกวิจารณ์สับเปรอะขอรับ ซึ่งก็เริ่มเข้าใจแฟนคลับของ DQ ได้เลย

สรุปในภาพรวมแล้ว นี่เป็นอนิเมชั่นที่ดี มีคุณภาพ รายละเอียดสนุก เพลงประกอบจากเกมที่ชวนคิดถึงสุดเพราะรวมทั้งเข้ากับแต่ละฉากมาก ฉากแอ็กชั่นตอนสู้กับมอนสเตอร์แล้วก็การใช้เวทมนต์ทำได้โอเค มีความพยายามที่จะดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขเรื่องราวจากในเกมมาลงในรูปภาพยนตร์อนิเมชั่นได้ดีเยี่ยม แม้ว่าการเปลี่ยนหลายจุดจะน่าขัดใจเอามากๆแถมตอนสุดท้ายยังทำออกมาแบบที่คนรังเกียจก็จะเกลียดชังไปเลย



แต่เอาเป็นว่าในภาพรวมแล้ว นี่คือหนัง DQ ที่แฟนๆควรมอง เพราะว่าถ้าเกิดเป็นแฟนพันธุ์แท้ จะมีหลายฉากที่คุณต้องร้องว้าวไปกับมันแน่ๆ เป็นการทำหนังที่มีกลิ่นอายแบบ Nostagia สำหรับคนในวัย 30-50+ พอควรเลย แต่ท้ายที่สุดแล้วผู้ชมจะชอบไหม เสนอแนะว่าจำเป็นต้องตัดสินเองนะครับ ซึ่งก็เข้าฉายแล้วใน Netflix สามารถรับดูได้เลย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *